เบสท์ วงศ์ไพโรจน์กุล รองเลขาธิการพรรคไทยสร้างไทย แสดงความเห็นต่อสถานการณ์การเมืองปัจจุบัน หลังสภาผู้แทนราษฎรล่มซ้ำซาก รวมถึงใช้เทคนิคในการชิงปิดสภาบ่อยครั้ง ซึ่งจากกรณีที่ สส. ฝ่ายรัฐบาลไม่สามารถรักษาองค์ประชุมได้ โดยชี้ว่านี่คือภาพสะท้อนของ “รัฐบาลไร้เสถียรภาพ” ไม่สามารถควบคุมเสียงข้างมากของตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ
.
รองเลขาธิการพรรคไทยสร้างไทย ระบุว่า ทุกครั้งที่สภาล่ม คือการทำลายโอกาสของประชาชน ในการได้รับกฎหมายดี ๆ หรือมาตรการที่จะแก้ปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อ เศรษฐกิจ สวัสดิการ และคุณภาพชีวิตของคนไทยในระยะยาว
“การประชุมสภาหนึ่งวันใช้งบประมาณมหาศาล ไม่ต่ำกว่า 6–7 ล้านบาท แต่เมื่อไม่มีองค์ประชุม การพิจารณากฎหมายและการตรวจสอบฝ่ายบริหารก็ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ ซึ่งหมายความว่าประชาชนไม่ได้รับอะไรเลยจากภาษีที่ตนจ่ายไป” เบสท์กล่าว
.
รองเลขาธิการพรรคไทยสร้างไทย ยังเรียกร้องให้ รัฐบาลแสดงความรับผิดชอบ และไม่เพิกเฉยต่อปัญหานี้ เพราะนี่คือหน้าที่โดยตรงในฐานะเสียงข้างมากในสภา หากยังปล่อยให้เกิดขึ้นซ้ำซาก ย่อมสะท้อนให้เห็นถึง “ความไร้ความสามารถในการบริหารประเทศภายใต้ระบอบประชาธิปไตย”
เบสท์ เสนอให้มีการปฏิรูปกระบวนการทำงานของรัฐสภา เพื่อให้ระบบตรวจสอบมีประสิทธิภาพมากขึ้น และวางมาตรการเชิงรุกในการป้องกันไม่ให้การประชุมล่มกลายเป็นเรื่องปกติในทางการเมืองไทย พร้อมย้ำว่า “เราควรสร้างวัฒนธรรมความรับผิดชอบร่วมกันของทุกฝ่าย เพื่อให้สภาเป็นที่พึ่งของประชาชนอย่างแท้จริง”
