นายวรวุฒิ โตวิรัตน์ รองเลขาธิการพรรคไทยสร้างไทย ให้สัมภาษณ์ว่า ขณะนี้ประเทศไทยกำลังเผชิญ วิกฤตศรัทธาอย่างรุนแรงต่อผู้นำรัฐบาล ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อทุกมิติของการบริหารประเทศ โดยเฉพาะเศรษฐกิจที่อยู่ในภาวะเปราะบาง ความเชื่อมั่นที่ถดถอยนี้ หากปล่อยไว้โดยไม่มีการแก้ไขอย่างจริงจัง อาจนำไปสู่วิกฤตที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง
.
นายวรวุฒิได้หยิบยกผลสำรวจล่าสุดจากสถาบันไอเอฟดีโพล ที่พบว่ากว่า 85% ของประชาชน ไม่เชื่อมั่นหรือไม่ค่อยเชื่อมั่นในรัฐบาล และกว่าครึ่งเชื่อว่ารัฐบาลชุดนี้จะอยู่ได้ไม่เกิน 3 เดือน ความรู้สึกสิ้นหวังเหล่านี้ ทำให้ประชาชนบางส่วนเสนอให้ นายกลาออก หรือยุบสภาเลือกตั้งใหม่ หรือจัดตั้งรัฐบาลชั่วคราวเพื่อสร้างเสถียรภาพและเรียกคืนความเชื่อมั่น
.
นายวรวุฒิ เตือนว่าความเสื่อมศรัทธาในระบอบการเมืองกำลังนำไปสู่ “ภาวะเฉยชา” ของประชาชนต่อกิจกรรมทางการเมือง ไม่ว่าจะเป็นการเลือกตั้ง การแสดงออก หรือการตรวจสอบอำนาจรัฐ ซึ่งเป็นสัญญาณอันตรายต่อประชาธิปไตยระยะยาว และอาจทำให้ระบบการเมืองอ่อนแออย่างต่อเนื่อง
.
ในด้านเศรษฐกิจ เขาชี้ว่า วิกฤตศรัทธาสะท้อนออกมาอย่างชัดเจนในภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ โดยเฉพาะตลาดหลักทรัพย์ ดัชนีลดลงกว่า 17% มูลค่าตลาดสูญหายเกือบ 3 ล้านล้านบาท สถาบันการเงินและนักวิเคราะห์จำนวนมากเตือนว่า เศรษฐกิจไทยในครึ่งหลังปี 2025 อาจเข้าสู่ภาวะถดถอย โดยมีความไม่แน่นอนทางการเมืองเป็นปัจจัยเร่ง
.
รองเลขาธิการพรรคไทยสร้างไทยกล่าวทิ้งท้ายว่า ถึงเวลาแล้วที่ทุกภาคส่วน จะมาร่วมมือกับพรรคไทยสร้างไทย ในการปฏิรูปการเมืองอย่างจริงจัง ผ่านการแก้ไขรัฐธรรมนูญและปรับโครงสร้างอำนาจให้มีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ และเปิดทางให้ประชาชนมีส่วนร่วมมากขึ้น หากยังคงเพิกเฉย วิกฤตศรัทธานี้จะทวีความรุนแรงและนำประเทศสู่ภาวะที่ยากต่อการฟื้นตัวในทุกด้าน
