ดร.ธวัชชัย ปิยนนทยา อดีตประธานสภากรุงเทพมหานคร และหัวหน้าทีมกทม.พรรคไทยสร้างไทย แสดงความกังวลต่อกรณีที่สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (สก.) จำนวน 25 คน ยื่นญัตติขอเปลี่ยนประธานสภา ดร.สุรจิตต์ พงษ์สิงห์วิทยา
โดยระบุว่า นี่คือเหตุการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในรอบเกือบ 40 ปี และอาจสะท้อนถึงแรงกระเพื่อมภายในโครงสร้างอำนาจของกรุงเทพมหานคร
.
ประเด็นที่ถูกสังคมตั้งคำถามอย่างมากคือ ความชอบธรรมของญัตติดังกล่าว เนื่องจากไม่มีการระบุเหตุผลที่ชัดเจน หรือข้อกล่าวหาที่ตรงไปตรงมา ทั้งในเรื่องจริยธรรม หรือข้อกฎหมายใดๆ ที่ชัดแจ้ง จึงเกิดข้อสงสัยว่าการยื่นญัตตินี้อาจมีแรงจูงใจอื่นที่เกี่ยวเนื่องกับผลประโยขน์ที่ไม่สามารถเปิดเผยต่อสาธารณะหรือไม่
.
ดร.ธวัชชัย ระบุว่า แม้ประธานสภากทม.ยังไม่ลาออก และญัตติยังไม่ถูกบรรจุเข้าสู่วาระการประชุม แต่ก็มีข่าวลือว่ามีความพยายามกดดันให้เขาลาออกจากตำแหน่ง โดยเฉพาะการพูดคุยนอกรอบกับผู้มีบทบาททางการเมืองระดับชาติ ซึ่งทำให้หลายฝ่ายมองว่านี่อาจเป็นการใช้อิทธิพลแทรกแซงกระบวนการประชาธิปไตยในระดับท้องถิ่น
.
นอกจากนี้ ยังถูกสังคมวิพากษ์วิจารณ์ เกี่ยวกับข้อเสนอให้มีการประชุมลับ ซึ่งตนมองว่าอาจเป็นความพยายามปิดบังข้อมูลบางอย่างไม่ให้ประชาชนรับรู้ ขณะที่อีกด้านก็มีการเชื่อมโยงเหตุการณ์นี้กับปัญหาผลประโยชน์ที่ไม่ลงตัว ทั้งเรื่องงบประมาณ โครงการในพื้นที่ และความสัมพันธ์ระหว่างฝ่ายบริหารกับฝ่ายนิติบัญญัติของกรุงเทพมหานคร
.
หัวหน้าทีม กทม.พรรคไทยสร้างไทย ตั้งข้อสังเกตว่า เหตุการณ์ครั้งนี้อาจไม่ได้สะท้อนแค่ความขัดแย้งภายในสภา แต่คือสัญญาณของความไม่โปร่งใสในกลไกการเมืองท้องถิ่น ที่ควรยึดโยงกับประชาชน ไม่ใช่กลุ่มอำนาจหรือผลประโยชน์เฉพาะกลุ่ม พร้อมทิ้งคำถามสำคัญให้สังคมร่วมกันพิจารณาว่าใครได้ประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ และเกิดอะไรขึ้นเบื้องหลังการเมืองในกรุงเทพมหานคร