นายปริเยศ อังกูรกิตติ โฆษกพรรคไทยสร้างไทย กล่าวถึงกรณีที่ นายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ออกมาให้เหตุผลว่าที่นายกรัฐมนตรีตีตกกฎหมายบำนาญประชาชนและกฎหมายบำนาญผู้สูงวัยร่างต่างๆ เป็นเพราะใช้งบประมาณมากเกินไปและไม่สามารถดำเนินการได้
.
โฆษกพรรคไทยสร้างไทยกล่าวว่า ตนรู้สึกเสียดายที่นักการเมืองมากประสบการณ์อย่างนายสมคิด ซึ่งกำลังจะมีอายุครบ 70 ปี กลับไม่เห็นใจคนสูงวัย ทั้งที่เคนเป็น สส. เขตในภาคอีสาน ซึ่งมีประชากรสูงวัยและแรงงานอพยพเข้าเมืองเป็นจำนวนมาก
.
นายปริเยศ ชี้ว่าแนวคิดการออกกฎหมายบำนาญผู้สูงอายุมีเป้าหมายเพื่อสร้างหลักประกันความมั่นคงในชีวิตประชาชน เพราะปัจจุบันผู้ที่อยู่ในวัยแรงงานไม่เพียงต้องทำงานหาเลี้ยงตัวเอง แต่ยังต้องส่งเงินไปดูแลพ่อแม่หรือญาติผู้สูงวัย บางครอบครัวไม่ได้ดูแลเพียง 1-2 คน แต่ต้องดูแลทั้งครอบครัวที่กลายเป็นผู้สูงอายุทั้งหมด ส่งผลให้แรงงานเหล่านี้ไม่มีโอกาสเก็บออมเพื่อต่อยอดการลงทุนหรือพัฒนาชีวิตของตนเอง หลายคนต้องดิ้นรนหาเงินส่งกลับบ้านจนแทบไม่มีเงินเก็บ
.
นายปริเยศกล่าวต่อว่า การที่รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีออกมาให้ข้อมูลโดยเน้นเพียงเรื่องงบประมาณ แสดงให้เห็นว่าไม่ได้ทำความเข้าใจเนื้อหาของร่างกฎหมายบำนาญประชาชนและบำนาญผู้สูงวัยเลยแม้แต่น้อย จุดประสงค์ของร่างกฎหมายเหล่านี้คือการพัฒนาคุณภาพชีวิต ไม่ใช่แค่การแจกเงินเพื่อหวังคะแนนเสียงเหมือนบางนโยบายของรัฐบาล
.
“ถ้ารองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ซึ่งก็เป็นผู้สูงวัยเอง ยังไม่เข้าใจเนื้อหากฎหมายเหล่านี้ นายกรัฐมนตรีเองก็คงไม่ได้ศึกษารายละเอียดเช่นกัน คงได้แต่ฟังข้อมูลที่บรรดาผู้ใกล้ชิดสรุปให้ โดยไม่พิจารณาข้อดีข้อเสียอย่างรอบด้าน”
.
โฆษกพรรคไทยสร้างไทยระบุว่า รู้สึกเสียดายที่กฎหมายเหล่านี้ถูกตีตก และอยากให้ประชาชนได้รับคำตอบที่ชัดเจนว่านายกรัฐมนตรีมีเหตุผลอะไร นอกเหนือจากประเด็นงบประมาณ หรือเป็นเพราะร่างกฎหมายนี้ถูกเสนอโดยคุณสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์
.
“กฎหมายเหล่านี้มีประโยชน์มหาศาลและจะช่วยแบ่งเบาภาระคนวัยแรงงาน หากใครจะอ้างเรื่องงบประมาณมาเป็นข้ออ้าง ตนพร้อมจะดีเบทในทุกเวที” นายปริเยศกล่าว
#บำนาญประชาชน #ไทยสร้างไทย #เศรษฐกิจยั่งยืน #สังคมสูงวัย #สร้างการเมืองสุจริต