นายทิวากร สุระชน รองเลขาธิการพรรคไทยสร้างไทย ยืนยันว่ากรณีที่มีบุคคลในครอบครัวของ สส. สังกัดพรรคไทยสร้างไทย ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์นั้น การแต่งตั้งดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องกับพรรคไทยสร้างไทยแต่อย่างใด ทั้งในด้านนโยบายและทางการเมือง
.
ตำแหน่งรัฐมนตรีนี้มาจากการพิจารณาของนายกฯจากพรรคเพื่อไทยโดยตรง ซึ่งนายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้าพรรคเป็นผู้มีอำนาจตัดสินใจโดยลำพัง โดยไม่มีการปรึกษาหรือรับฟังความคิดเห็นจากกลุ่ม สส. ในพรรคเพื่อไทยเอง โดยเฉพาะตัวแทนจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่มีความต้องการมีบทบาทในการบริหารราชการแผ่นดิน แต่กลับถูกมองข้าม
.
นายทิวากร ตั้งคำถามต่อพรรคเพื่อไทยว่า หากอ้างว่ามีความเชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจ เหตุใดจึงมอบตำแหน่งสำคัญในกระทรวงเศรษฐกิจให้แก่บุคคลที่ไม่ได้สังกัดพรรคโดยตรง ซึ่งสะท้อนถึงความไม่เป็นเอกภาพในการตัดสินใจภายในพรรคของนายกรัฐมนตรีเอง
.
สำหรับกรณีของนายฐากร สส. จากพรรคไทยสร้างไทย ซึ่งครอบครัว(บุตรชาย)ได้ตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยพาณิชย์ดังกล่าว พรรคเห็นว่าควรแสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออกจากตำแหน่สส.ของพรรคไทยสร้างไทย เพื่อเปิดทางให้สามารถย้ายไปสังกัดพรรคในฝั่งรัฐบาลได้อย่างเปิดเผย และไม่สร้างความสับสนให้กับประชาชนว่าพรรคไทยสร้างไทยมีส่วนเกี่ยวข้องกับการบริหารของรัฐบาลชุดปัจจุบัน
.
นายทิวากรย้ำว่า การเมืองในระบอบประชาธิปไตยควรยึดมั่นในจุดยืนอย่างชัดเจน และไม่ควรต้องพึ่งพาการสนับสนุนจาก “งูเห่า” หรือผู้เปลี่ยนขั้วย้ายข้างจากพรรคต้นสังกัด ซึ่งเป็นแนวทางที่บ่อนทำลายความเชื่อมั่นของประชาชนต่อระบบการเมือง หากไม่เร่งแก้ไขโครงสร้างที่เป็นปัญหาเหล่านี้ ก็จะย้อนกลับมาทำลายรัฐบาลเอง จนยากที่รัฐบาลจะได้รับการยอมรับหรือยืนระยะบริหารต่อไปได้
.
นายทิวากรทิ้งท้ายว่า ไม่มีนายกรัฐมนตรีคนใดต้องการบริหารประเทศด้วยโครงสร้างที่เปราะบาง ต้องพึ่งพา “งูเห่า”ที่พร้อมจะเปลี่ยนข้างเสมอ ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นรัฐบาลก็จะไม่สามารถอยู่ได้ และมั่นใจว่าภายในระยะเวลาไม่เกิน 6 เดือน จะต้องมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองอย่างแน่นอน พร้อมเผยว่ามีเสียงสะท้อนจากวงในว่า “ไปก่อน แล้วค่อยหางูเห่ามาค้ำ” ซึ่งสะท้อนถึงความไม่มั่นคงทางการเมืองอย่างชัดเจน