นายชวลิต วิชยสุทธิ์ รองหัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย แสดงความเห็นต่อกรณีคลิปเสียงสนทนาที่ปรากฏคำพูดของนายกรัฐมนตรีกล่าวถึง “แม่ทัพภาคที่ 2 อยู่ฝั่งตรงข้ามกับเรา” โดยระบุว่า คำกล่าวดังกล่าวส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อความมั่นคงของชาติ และความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลกับกองทัพ
.
นายชวลิตกล่าวว่า ประเด็นนี้ไม่เพียงเป็นการเปิดเผยข้อมูลอ่อนไหวที่ประชาชนทั่วไปไม่ควรได้รับรู้ แต่ยังถือเป็นประโยชน์อย่างยิ่งกับบุคคลภายนอก เช่น นายฮุน เซน ผู้นำกัมพูชา ซึ่งอาจนำไปใช้ในเชิงยุทธศาสตร์และการทูตต่อข้อพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา
.
“รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 8 บัญญัติไว้ชัดเจนว่า พระมหากษัตริย์ทรงดำรงตำแหน่งจอมทัพไทย คำพูดของนายกรัฐมนตรีจึงไม่เพียงพาดพิงถึงแม่ทัพเท่านั้น แต่ยังอาจกระทบต่อบุคคลที่อยู่เหนือขึ้นไปด้วย ไม่ว่าจะโดยเจตนาหรือไม่ก็ตาม” นายชวลิตกล่าว
.
รองหัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย ยังกล่าวต่อว่า เมื่อนายกรัฐมนตรีมีพฤติกรรมที่ส่งผลต่อความมั่นคงของชาติ หนทางเดียวที่เหมาะสมคือการแสดงความรับผิดชอบทางการเมือง ซึ่งมีเพียง 2 ทางเลือก คือ “ลาออก” หรือ “ยุบสภา”
.
“แต่ในกรณีนี้ การยุบสภาไม่ใช่ทางออก เพราะประเด็นคลิปเสียงไม่มีความเกี่ยวข้องกับสภาแต่อย่างใด การลาออกจึงเป็นทางเลือกที่แสดงถึงสปิริตทางการเมืองได้ดีที่สุด และอาจช่วยให้นายกรัฐมนตรีหลุดพ้นจากคดีความอื่น ๆ ที่อาจตามมาในอนาคต”
.
นายชวลิตยังกล่าวถึงเบื้องหลังการเข้าสู่ตำแหน่งของนายกรัฐมนตรีว่า เป็นที่รับรู้กันว่าบุคคลใกล้ชิด โดยเฉพาะ “พ่อและแม่” มีบทบาทสำคัญในการผลักดันลูกซึ่งยังขาดประสบ
.
