รัฐบาลและกระทรวงการคลังกำลังผลักดันนโยบาย #หวยเกษียณ ผ่านกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) โดยเตรียมเข้าสู่การพิจารณาในวาระที่ 2 และ 3 ในสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 23 กรกฎาคม 2568 ซึ่งนโยบายนี้มีเจตนาที่ดีในการสร้างแรงจูงใจให้ประชาชนหันมาออมเงินเพื่อวัยเกษียณ โดยนำรูปแบบของการลุ้นรางวัลมาใช้ควบคู่กับการออมเงิน เพื่อให้เงินที่เคยสูญเปล่ากับการซื้อหวยทั่วไป กลับกลายเป็นเงินออมที่มีเป้าหมายระยะยาว
.
อย่างไรก็ตาม แม้หลักการของ “หวยเกษียณ” จะดูดีในเชิงแนวคิด แต่ในเชิงรายละเอียดแล้วยังมีช่องว่างหลายจุดที่อาจไม่ประสบความสำเร็จ เช่น การจำกัดสิทธิการซื้อเฉพาะสมาชิก กอช. หรือแรงงานนอกระบบ, แม้อาจจะปรับเปลี่ยนได้ในอนาคต แต่นั่นก็จะทำให้คนเข้าสู่การออมรูปแบบนี่น้อยลงไปมาก สิ่งเหล่านี้อาจทำให้นโยบายที่ดูเหมือนตอบโจทย์ในภาพรวม แต่อาจไม่สามารถขับเคลื่อนให้เกิดผลในวงกว้างได้จริง
.
ในประเด็นนี้ พรรคไทยสร้างไทยเคยเสนอแนวทางไว้ก่อนหน้าในชื่อ #หวยบำเหน็จ
ซึ่งถือเป็นนโยบายต้นแบบที่มีการคิดอย่างเป็นระบบและครอบคลุมในหลายมิติ
พรรคไทยสร้างไทย จึงมีข้อเสนอขอให้นำจุดแข็งสำคัญของ “หวยบำเหน็จ” มาปรับใช้กับ “หวยเกษียณ” ดังนี้
📌 1. เปิดกว้าง ไม่จำกัดเฉพาะสมาชิก กอช.
ประชาชนทั่วไปเข้าร่วมได้ทันที ทั้งผู้มีรายได้น้อย แรงงานอิสระ ผู้เล่นหวยใต้ดิน ฯลฯ
📌 2. ดึงคนจากระบบ “หวยใต้ดิน” เข้าสู่การออม
ออกแบบให้มีการออกรางวัล 2 ตัว 3 ตัว แบบที่คุ้นเคย พร้อมรางวัลสูงสุดถึง 10 ล้านบาท
📌 3. กองทุนบริหารโปร่งใส เป็นอิสระจากการเมือง
ตั้งกองทุนสลากการออมแห่งชาติ แยกจาก กอช. เพื่อความคล่องตัว ความโปร่งใส และการเติบโตที่ยั่งยืน
📌 4. ไม่ใช่งบประมาณแผ่นดินระยะยาว
ลดภาระงบประมาณภาครัฐ เพราะกองทุนสามารถสร้างรายได้และบริหารตนเองได้ในอนาคต
.
แนวคิด “หวยบำเหน็จ” นี้ แม้จะไม่ได้ถูกผลักดันต่อโดย “พรรคเพื่อไทย” ในอดีต
ทั้งที่มีการเสนอแล้วและได้รับการสนับสนุนจากคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แต่ก็ถูกระงับไว้เนื่องจากความเห็นต่างภายในพรรค
ก่อนที่ “พรรคไทยสร้างไทย” จะนำแนวคิดนี้มาพัฒนาและใช้เป็นนโยบายหลักในการหาเสียงอย่างจริงจัง
สิ่งนี้ชี้ให้เห็นว่า “แนวคิดดังกล่าวมิได้เพิ่งเกิดขึ้นในรัฐบาลชุดนี้ แต่เป็นนโยบายที่ผ่านการกลั่นกรองและออกแบบมาอย่างลึกซึ้งแล้ว”
.
ดังนั้น ในการพิจารณาร่างกฎหมาย “หวยเกษียณ” ในสภาฯ ที่จะเกิดขึ้น
ควรมีการทบทวนอย่างรอบคอบและเปิดรับแนวทางจาก “หวยบำเหน็จ” ของพรรคไทยสร้างไทย
ซึ่งถือเป็นต้นแบบที่ครบถ้วนในเชิงวิสัยทัศน์และกลไกปฏิบัติ เพื่อให้สามารถประยุกต์ใช้ให้เข้ากับระบบของรัฐได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
และไม่ตกหล่นเจตนารมณ์ที่แท้จริงของการสร้างระบบการออมเพื่อคนไทยทุกกลุ่ม
.
รัฐบาลและกระทรวงการคลังกำลังผลักดันนโยบาย #หวยเกษียณ ผ่านกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) โดยเตรียมเข้าสู่การพิจารณาในวาระที่ 2 และ 3 ในสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 23 กรกฎาคม 2568 ซึ่งนโยบายนี้มีเจตนาที่ดีในการสร้างแรงจูงใจให้ประชาชนหันมาออมเงินเพื่อวัยเกษียณ โดยนำรูปแบบของการลุ้นรางวัลมาใช้ควบคู่กับการออมเงิน เพื่อให้เงินที่เคยสูญเปล่ากับการซื้อหวยทั่วไป กลับกลายเป็นเงินออมที่มีเป้าหมายระยะยาว
.
อย่างไรก็ตาม แม้หลักการของ “หวยเกษียณ” จะดูดีในเชิงแนวคิด แต่ในเชิงรายละเอียดแล้วยังมีช่องว่างหลายจุดที่อาจไม่ประสบความสำเร็จ เช่น การจำกัดสิทธิการซื้อเฉพาะสมาชิก กอช. หรือแรงงานนอกระบบ, แม้อาจจะปรับเปลี่ยนได้ในอนาคต แต่นั่นก็จะทำให้คนเข้าสู่การออมรูปแบบนี่น้อยลงไปมาก สิ่งเหล่านี้อาจทำให้นโยบายที่ดูเหมือนตอบโจทย์ในภาพรวม แต่อาจไม่สามารถขับเคลื่อนให้เกิดผลในวงกว้างได้จริง
.
ในประเด็นนี้ พรรคไทยสร้างไทยเคยเสนอแนวทางไว้ก่อนหน้าในชื่อ #หวยบำเหน็จ
ซึ่งถือเป็นนโยบายต้นแบบที่มีการคิดอย่างเป็นระบบและครอบคลุมในหลายมิติ
พรรคไทยสร้างไทย จึงมีข้อเสนอขอให้นำจุดแข็งสำคัญของ “หวยบำเหน็จ” มาปรับใช้กับ “หวยเกษียณ” ดังนี้
📌 1. เปิดกว้าง ไม่จำกัดเฉพาะสมาชิก กอช.
ประชาชนทั่วไปเข้าร่วมได้ทันที ทั้งผู้มีรายได้น้อย แรงงานอิสระ ผู้เล่นหวยใต้ดิน ฯลฯ
📌 2. ดึงคนจากระบบ “หวยใต้ดิน” เข้าสู่การออม
ออกแบบให้มีการออกรางวัล 2 ตัว 3 ตัว แบบที่คุ้นเคย พร้อมรางวัลสูงสุดถึง 10 ล้านบาท
📌 3. กองทุนบริหารโปร่งใส เป็นอิสระจากการเมือง
ตั้งกองทุนสลากการออมแห่งชาติ แยกจาก กอช. เพื่อความคล่องตัว ความโปร่งใส และการเติบโตที่ยั่งยืน
📌 4. ไม่ใช่งบประมาณแผ่นดินระยะยาว
ลดภาระงบประมาณภาครัฐ เพราะกองทุนสามารถสร้างรายได้และบริหารตนเองได้ในอนาคต
.
แนวคิด “หวยบำเหน็จ” นี้ แม้จะไม่ได้ถูกผลักดันต่อโดย “พรรคเพื่อไทย” ในอดีต
ทั้งที่มีการเสนอแล้วและได้รับการสนับสนุนจากคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แต่ก็ถูกระงับไว้เนื่องจากความเห็นต่างภายในพรรค
ก่อนที่ “พรรคไทยสร้างไทย” จะนำแนวคิดนี้มาพัฒนาและใช้เป็นนโยบายหลักในการหาเสียงอย่างจริงจัง
สิ่งนี้ชี้ให้เห็นว่า “แนวคิดดังกล่าวมิได้เพิ่งเกิดขึ้นในรัฐบาลชุดนี้ แต่เป็นนโยบายที่ผ่านการกลั่นกรองและออกแบบมาอย่างลึกซึ้งแล้ว”
.
ดังนั้น ในการพิจารณาร่างกฎหมาย “หวยเกษียณ” ในสภาฯ ที่จะเกิดขึ้น
ควรมีการทบทวนอย่างรอบคอบและเปิดรับแนวทางจาก “หวยบำเหน็จ” ของพรรคไทยสร้างไทย
ซึ่งถือเป็นต้นแบบที่ครบถ้วนในเชิงวิสัยทัศน์และกลไกปฏิบัติ เพื่อให้สามารถประยุกต์ใช้ให้เข้ากับระบบของรัฐได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
และไม่ตกหล่นเจตนารมณ์ที่แท้จริงของการสร้างระบบการออมเพื่อคนไทยทุกกลุ่ม
.
“สิ่งสำคัญที่สุด ไม่ใช่ว่าใครเป็นผู้เสนอ แต่คือการเลือกนโยบายที่ดีที่สุดต่อประชาชน”
โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบางทางเศรษฐกิจ เพื่อสร้างระบบการออมที่ยั่งยืน โปร่งใส และเป็นธรรม